ตกลง
ที่เที่ยวหน้าฝน 2561 สัมผัสความสวยของธรรมชาติในมุมต่าง
20 มิ.ย. 2561
1,805
หลายคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่จะออกเที่ยวช่วงหน้าฝน เพราะคิดว่าจะได้เห็นอีกหนึ่งมุมของธรรมชาติที่สวยไม่เหมือนใคร

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนสุดฮิต อย่างดอยอินทนนท์, แม่แจ่ม, แม่กลางหลวง, ดอยอ่างขาง, ล่องแก่งลำน้ำเข็ก, ภูทับเบิก, เขาค้อ, ทุ่งดอกกระเจียว ฯลฯ ที่เราเคยนำเสนอไปแล้วในกระทู้ "20 ที่เที่ยวหน้าฝน สุดฮอต ไปค้นหาความสุขในวันฝนพรำ" แล้ว จริง ๆ ยังมีที่เที่ยวหน้าฝน 2561 อีกมากรอให้คุณไปเช็กอิน จะได้วางแผนเที่ยวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ มีที่ไหนน่าสนใจ เราเช็กลิสต์ไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

1. บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่

1

บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ที่ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่เที่ยวแม่แจ่มที่ห้ามพลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาสัมผัสกันสักครั้งของเมืองเชียงใหม่เลยล่ะ ด้วยความงดงามของนาขั้นบันไดบนเขาสูงที่ไร่เรียงซ้อนกันลงไปตามไหล่เขาอย่างสวยงาม พร้อมกับบรรยากาศอันเงียบสงบที่โอบล้อมรอบ ๆ ทำให้บ้านป่าบงเปียงน่าหลงใหล ไม่ว่าจะมาเที่ยวในฤดูกาลไหน ที่นี่ก็สวยงามน่าประทับใจ ไม่ต้องไปไกลถึงบาหลีก็มีนาข้าวขั้นบันไดสวยตรึงใจให้ชมกันที่นี่ พิกัด 18.532300, 98.447994

2. น้ำตกผาดอกเสี้ยว จังหวัดเชียงใหม่

1

ตั้งอยู่ที่บ้านแม่กลางหลวงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ประกอบด้วยทั้งหมด 10 ชั้น แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนคือน้ำตกผาดอกเสี้ยว อยู่ที่ชั้นที่ 7 เพราะสายน้ำจากน้ำตกชั้นบน จะไหลตกลงมากระทบน้ำตกชั้นล่าง เป็นสายฟูฟ่องงดงามเกินบรรยาย อีกทั้งยังมีสะพานไม้สำหรับเดินข้ามลำธาร สร้างความสวยงามให้น้ำตกผาดอกเสี้ยวสวยกว่าเดิมเป็นสองเท่า สำหรับการเดินทางมาเที่ยวน้ำตกผาดอกเสี้ยว นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องติดต่อไกด์นำเที่ยวที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงเสียก่อน ด้วยเพราะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวเองโดยลำพัง เพราะอาจหลงทางหรือได้รับอุบัติเหตุได้นั่นเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ 053 286 727

3. น้ำตกถ้ำพระ จังหวัดบึงกาฬ

1

ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว โดยรวมของตัวน้ำตกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ได้แก่ ช่วงแรกจะเป็นธารน้ำตกไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำกว้าง (นักท่องเที่ยวคนไหนจะเล่นน้ำตรงส่วนนี้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะน้ำจัดได้ว่าค่อนข้างลึกพอสมควร) ถัดมาช่วงกลางของน้ำตก มีพื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่ยาวไปจนถึงฝายทดน้ำ น้ำค่อนข้างตื้น สามารถเล่นน้ำได้ตามใจชอบ และส่วนสุดท้ายเป็นบริเวณเหนือฝายขึ้นไป จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของน้ำตก เพราะจะเห็นน้ำตกกว้างสีขาวลอยฟูฟ่อง ซึ่งเป็นต้นธารที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง

4. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

1

เนินช้างศึก ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจุดชมวิว 2 แผ่นดินและทะเลหมอกที่สวยงามมาก ๆ โดยด้านบนจะสามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้านอีต่อง เนินเขาน้อยใหญ่ทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งประเทศเมียนมา ถ้าวันไหนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งก็สามารถมองเห็นทะเลอันดามันทางฝั่งเมียนมาได้อีกด้วย แต่ในช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่จะสามารถชมทะเลหมอกได้สวยงามเช่นเดียวกับหน้าหนาว อากาศสดชื่น บรรยากาศเงียบสงบสุด ๆ

5. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี

1

ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมือง 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด น้ำตกไหลมาจากต้นน้ำของเทือกเขากะลาซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้งทางทิศตะวันออกของอุทยาน และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไปแต่ละชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและความสวยงามต่างกันไป ทางอุทยานได้ทำเส้นทางเดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้นและยังเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

6. ดินแดนหิ่งห้อย จังหวัดปราจีนบุรี

1

ตั้งอยู่ภายในกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ เลขที่ 1 หมู่ 5 ค่ายพรหมโยธี ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง ซึ่งการชมหิ่งห้อยธรรมชาติจะรังสรรค์ให้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงหน้าฝนเท่านั้น สามารถติดต่อขอเข้าชมได้ที่บริเวณด้านหน้าค่าย เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมหิ่งห้อยจะอยู่ในช่วงระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.

อ๊ะ ๆ แล้วอย่าลืมกันนะคะว่าหิ่งห้อยชอบธรรมชาติและความเงียบสงบมาก เพราะฉะนั้นการเข้าเที่ยวชมจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เสียก่อนเพื่อความเป็นระเบียบ เจ้าหน้าที่จะพาเราเข้าไปยังจุดชมหิ่งห้อยอย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ไม่ควรทายากันยุงเข้าไปบริเวณแดนหิ่งห้อย รวมทั้งไม่ส่งเสียงดังและงดการใช้แฟลชและแสงสว่างทุกกรณี สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี โทรศัพท์ 0 3748 0441, 0 3757 0095

7. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

1

วนอุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ที่ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา เป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นักท่องเที่ยวจะได้ชมหมอกมากมายลอยละล่องคลอเคลียกับยอดเขาหินปูนน้อยใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ อากาศสดชื่นและเย็นสบาย ในฤดูฝนสามารถเที่ยวชมกันได้แบบชิล ๆ ไม่ต้องแย่งกับนักท่องเที่ยวเหมือนในช่วงหน้าหนาว แถมที่พักบางแห่งยังปรับลดราคาอีกด้วย

8. เนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

1

อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ใครอยากหาสถานที่ท่องเที่ยวที่จะอิงแอบกับธรรมชาติ พร้อมกับบรรยากาศสบาย ๆ ต้องลองไปเที่ยวอำเภอเนินมะปรางกันสักครั้ง ที่สำคัญยังมีแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาด เช่น จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านเผ่าไทย ตำบลชมพู เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถมองเห็นแนวภูเขาและท้องทุ่งนาสลับกับบ้านเรือนชาวบ้านได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการหลากหลายแห่ง

จุดชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเผ่าไทย ไฮไลท์สำคัญคือสลิงชิงช้าซึ่งอยู่บนต้นไม้สูง สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ได้แบบตระการตาและน่าตื่นเต้นสุด ๆ หรือภูเขาหินปูนบ้านมุง ตำบลบ้านมุง บริเวณนี้จะเป็นจุดที่สามารถชมภูเขาหินปูนสูงใหญ่ได้อย่างสวยงามและชัดเจนมาก ๆ อีกทั้งยังจะเห็นท้องทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ มีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา

9. ทุ่งดอกเปราะภูสีขาว จังหวัดพิษณุโลก

1

ทุ่งดอกเปราะภูขาว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โดยดอกเปราะภูสีขาวนี้จะบานสะพรั่งแทรกแซมอยู่ตามร่องหินในบริเวณลานหินปุ่ม ซึ่งเจ้าดอกเปราะภูสีขาวนี้สามารถพบเห็นได้ยากมาก เพราะฉะนั้นใครยังไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหนในช่วงหน้าฝน ก็จัดไปเที่ยวที่นี่กันได้เลย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทรศัพท์ 08 1596 5977

10. น้ำตกปิตุ๊โกร จังหวัดตาก

1

ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น อำเภออุ้มผาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 500 เมตร ถือเป็นน้ำตกแห่งความสวยงาม และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะของน้ำตกจะเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่ โดยชั้นน้ำตกที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือชั้นน้ำตกที่ไหลมารวมกันจากด้านซ้ายและขวาเป็นรูปตัววีขนาดใหญ่ จนเกิดม่านสีขาวมองดูคล้ายรูปหัวใจ

11. ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง

1

ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวล้าน ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมือง เป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น ในช่วงฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ บางครั้งจึงเรียกว่าภูเขาหญ้า พอถึงช่วงฤดูร้อนหญ้าเหล่านี้ก็จะตาย เมื่อมองจากที่ไกล ๆ จะเห็นว่าเป็นสีน้ำตาล ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ

12. สะพานบุญโขกู้โส่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

1

ตั้งอยู่ที่บ้านแพมบก ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย เป็นสะพานไม้ไผ่ยาวท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวและภูเขาน้อยใหญ่ สัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม พร้อมชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน โดยสร้างเชื่อมระหว่างหมู่บ้านแพมบกและวัดห้วยคายคีรี มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อให้พระสงฆ์ข้ามมาบิณฑบาตในตอนเช้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องเหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิล ท่ามกลางวิวสวย ๆ ของป่าเขาและทุ่งนาอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะมานอนพักแบบสบาย ๆ ได้ที่โฮมสเตย์ของชาวบ้านภายในหมู่บ้านด้วย

13. น้ำพุร้อนไทรงาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ อบต.แม่นาเติง บริเวณป่าอนุรักษ์ไทรงาม ตำบลแม่นาเติง โดยเป็นบ่อน้ำผุดขึ้นตามธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำกว้างใส ล้อมรอบด้วยธรรมชาติต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าการได้มาแช่ตัวที่น้ำพุร้อนแห่งนี้ยังช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อย่างอาการของโรคเหน็บชาหรือไขข้ออักเสบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อบต.แม่นาเติง

14. น้ำตกคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร

1

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน สายน้ำจะไหลจากลำห้วยต่าง ๆ ลงสู่แอ่งน้ำกลางหุบเขา เกิดเป็นวังน้ำลึก โดยไหลผ่านหน้าผาลงมาเป็นน้ำตกคลองลาน เกิดเป็นละอองน้ำตกสวยงาม และถึงแม้ว่าน้ำตกแห่งนี้จะมีเพียงชั้นเดียว แต่นักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามมาก สำหรับการเดินทางมาเที่ยวน้ำตกคลองลาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เพราะตัวน้ำตกห่างจากที่ทำการอุทยานเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น และจากตัวลานจอดรถก็สามารถมองเห็นน้ำตกคลองลานได้อย่างชัดเจน

15. ทุ่งดอกหงอนนาค ปราจีนบุรี

1

หน้าฝนนี้ชวนชมทุ่งดอกหงอนนาคบานสะพรั่ง ณ สวนศักดิ์สุภา รีสอร์ท แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะบานในช่วงเดือนสิงหาคมถึงประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งการเข้าเที่ยวชมทุ่งดอกหงอนนาคสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมจะอยู่ที่เวลาประมาณ 06.00-14.00 น. โดยจะมีค่าธรรมเนียมค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท เพื่อนำไปบำรุงรักษาพื้นที่ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว ไม่เด็ด ไม่ดึงดอกไม้ รวมทั้งไม่เดินเข้าไปเหยียบย่ำในแปลง และขุด/ถอนต้นหงอนนาค ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.saksupha.com


16. กุ้งเดินขบวน จังหวัดอุบลราชธานี

ชวนชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในหน้าฝน กับแหล่งท่องเที่ยวอุบลราชธานีสุดอัศจรรย์อย่าง "กุ้งเดินขบวน" ณ แก่งลำดวน บ้านแข้ด่อน ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน ที่ขึ้นมาบริเวณโขดหินลานพันรู แล้วมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาพนมดงรัก เพื่อพาตัวเองกลับไปยังแหล่งกำเนิดที่ต้นน้ำบนยอดเขา ไปสืบพันธุ์และวางไข่กุ้งในช่วงหน้าฝน โดยจะขึ้นมาเดินอวดโฉมเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ ตัวในช่วงเวลากลางคืนของกลางเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายนในทุก ๆ ปี

17. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย

1
ภาพจาก CGN089 / Shutterstock.com

ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม เป็นยอดเขาสูงริมแม่น้ำโขงที่สามารถมองเห็นได้ทั้งวิวของทะเลหมอกสุดปัง และพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามจับตา โดยจุดเด่นของภูห้วยอีสันอยู่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน ดังนั้นคุณจึงมีเวลาตักตวงความสุขจากธรรมชาติได้แบบเต็มที่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปยังภูห้วยอีสัน จะต้องนั่งรถของชาวบ้านขึ้นไป โดยผ่านการประสานงานและอำนวยความสะดวกจาก อบต.บ้านม่วง อำเภอสังคม ใครอยากหาจุดชมทะเลหมอกวิวสวย คนไม่เยอะ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง

18. แมงกะพรุนหลากสี จังหวัดตราด

1
ภาพจาก isarescheewin / Shutterstock.com

ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับชมปรากฏการณ์นี้ได้ที่บริเวณหาด "ราชการุณย์" และ "หาดเล็ก" ซึ่งเราจะเห็นแมงกะพรุนหลากหลายสีสันและประเภทลอยโผล่ผิวน้ำ เช่น แมงกะพรุนถ้วย แมงกะพรุนโตนด แมงกะพรุนลอดช่อง แมงกะพรุนไฟ และแมงกะพรุนกล่อง เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือของชาวบ้านนั่งชมความมหัศจรรย์นี้ได้ แต่หลายคนไปแล้วอาจผิดหวัง ที่ไม่ได้เห็นแมงกะพรุนเยอะอย่างที่คิด นั่นเพราะต้องขึ้นอยู่กับกระแสคลื่นและลมเป็นหลัก ขอเตือนว่า นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการชม เพราะเราไม่รู้ว่าแมงกะพรุนตัวไหนมีพิษ เกิดเผลอไปโดนเข้าอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

19. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

1

เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย เงียบสงบ มีธรรมชาติอันสวยงามและสมบูรณ์ หาดทรายขาวละเอียด อีกทั้งยังมีแนวปะการังที่ยาวถึง 8 กิโลเมตร อันเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาหลากหลายชนิด ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลกแห่งหนึ่งในเรื่องของความงดงามและสีสันของโลกใต้ทะเล จนทำให้นักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างต้องมนตร์เสน่ห์และหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านให้พบเห็น ที่พักมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งบนเกาะและริมหน้าผาหิน ที่มีวิวของท้องทะเลสีฟ้าครามให้ได้ชมตลอดทั้งวันทั้งคืน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกาะเต่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ

20. หาดขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

1

ขนอม เป็นอำเภอที่มีชายหาดที่สวยงาม โดยเฉพาะ "หาดขนอม" ซึ่งเป็นหาดที่มีความยาวติดต่อกัน 2-3 หาด คือหาดในแปร็ต หาดในเพลา และหาดปากน้ำ เป็นชายหาดที่มีทรายขาว สะอาด น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับการเล่นน้ำทะเล แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนหาดขนอม และเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่อำเภอนี้ก็คือการที่ได้มาดู "โลมาสีชมพู" ที่มาหาอาหาร หรือจะเป็น "จุดชมทิวทัศน์เขาดาดฟ้า" โดยจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวดวงอาทิตย์ขึ้นจากทะเลที่สวยงามและประทับใจจนลืมไม่ลง

ใครที่คิดว่าหน้าฝนเป็นฤดูที่ไม่น่าออกไปเที่ยว เห็นทีว่าต้องรีบเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะคะ ตรงกันข้าม…เที่ยวหน้าฝน จะทำให้เราได้เห็นธรรมชาติในมุมแปลกตา แถมไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ รับรองเลยว่าได้เสพธรรมชาติได้แบบฟิน ๆ ^ ^

 

ที่มา :: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท)

ที่เที่ยวหน้าฝน 2561 สัมผัสความสวยของธรรมชาติในมุมต่าง
ที่เที่ยวหน้าฝน 2561